1. ดูแลที่กรองอากาศเครื่องยนต์ให้สะอาดอยู่เสมอ
เพราะที่กรองอากาศนั้น จะทำหน้าที่ป้องกันฝุ่น ดักจับสิ่งสกปรก ที่เจือปนเข้าไปกับอากาศ ดังนั้นควรหมั่นตรวจเช็กให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้อากาศสามารถไหลเข้าไปห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ได้เป็นปกติ
2. ตรวจเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจสอบระดับแรงดันลมยาง ทั้งสี่ล้อ ควรทำอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือน ให้อยู่ในระดับมาตรฐานที่รถต้องใช้ ตามคำแนะนำในคู่มือรถของคุณ การเติมลมยางที่เหมาะสมจะช่วยให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีขึ้น และยังช่วยรักษาระดับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อีกด้วย
3. แบตเตอรี่
แบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนสำคัญ คอยอำนวยความสะดวกต่างๆ ในรถ ทั้งเครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง การสตาร์ทเครื่องยนต์ ดังนั้นอย่าปล่อยให้แบตเตอรี่น้ำกลั่นแห้ง หรือเมื่อครบอายุการใช้งาน 1-2 ปี ก็ควรที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้แล้ว
4. หมั่นตรวจเช็กของเหลวในเครื่องยนต์
ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเฟืองท้าย(ถ้ามี), น้ำหล่อเย็น, น้ำมันเบรก นี่คือบรรดาของเหลวซึ่งมีความสำคัญในการทำงานของรถคุณ อย่าปล่อยผ่าน และหมั่นตรวจเช็กตามระยะ ก็จะช่วยให้คุณใช้รถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หมดกังวลได้เลย
5. สายพาน
ชิ้นส่วนของสายพาน หากปล่อยให้เสื่อมสภาพ มีรอยแตกร้าว ก็อาจทำให้สายพานเสี่ยงที่จะขาดได้ ซึ่งมีผลทำให้รถไม่สามารถขับขี่ได้ในทันที ดังนั้นหมั่นตรวจสอบสภาพชิ้นส่วนนี้ และควรเปลี่ยนตามอายุการใช้งาน
6. หัวเทียน
อุปกรณ์อีกชิ้นที่ทำหน้าที่ในการช่วยจุดระเบิดในห้องเผาไหม้อย่างหัวเทียน เป็นชิ้นส่วนที่ใช้งานไปก็เสื่อมสภาพปล่อยผ่านไม่ได้ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์คุณควรหมั่นตรวจสอบตามระยะที่คู่มือรถของคุณกำหนดไว้
7. ระบบเบรก
ตั้งแต่น้ำมันเบรก ผ้าเบรก หรือจานเบรก แต่ละส่วนควรอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เพราะทุกจุดล้วนมีผลต่อการขับขี่ที่ส่งผลต่อชีวิตคุณได้ในเสี้ยววินาที
8. กระจกหน้าต้องใส ใบปัดน้ำฝนต้องเนียน
ขณะฝนตกคุณจะเห็นประโยชน์ของใบปัดน้ำฝน ที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ของคุณดีขึ้นเมื่อเทียบกับใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพที่ปัดยังไงก็ไม่สะอาด ส่วนนี้ถ้าเก่าก็อย่าลืมเปลี่ยน รวมไปถึงกระจกบานหน้า ที่ต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดให้ใสอยู่เสมอ และถ้ามีรอยร้าวจากสะเก็ดหินก็ควรรีบซ่อมก่อนลามเป็นแผลใหญ่
9. ดูแลทำความสะอาดภายนอกรถ
อย่าปล่อยให้ภายนอกถูกทำร้ายจากแสงแดดหรือสิ่งสกปรกต่างๆ หากปล่อยไว้ไม่ยอมล้างรถ ล้วนแต่จะทำให้สภาพสีของรถคุณหม่นหมองไปได้เช่นกัน ดังนั้นหมั่นรักษารถให้สะอาดเงางามอยู่เสมอจะดีที่สุด
10. ดูแลทำความสะอาดภายใน
ทุกครั้งที่คุณเปิดประตู สิ่งสกปรก เศษฝุ่นต่างๆ ก็เข้ามาในรถคุณได้แล้ว และคุณต้องสูดมันเข้าไปในทุกครั้งที่ขับขี่ ดังนั้นอย่าลืมทำความสะอาดภายในห้องโดยสารอยู่เสมอด้วย แล้วคุณจะเห็นว่ารถของคุณน่าขับขึ้นอีกเยอะ